สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพไตหรือผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง (CKD) คำว่า eGFR (Estimated Glomerular Filtration Rate) หรือ อัตราการกรองของไต ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของไต แต่หลายคนยังคงสงสัยว่า ตัวเลขเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ “โปรตีน” ซึ่งเป็นสารอาหารที่เรากินเข้าไปในแต่ละวันได้อย่างไร บทความนี้จะอธิบายความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนแต่สำคัญนี้ให้เข้าใจง่ายขึ้น เพื่อให้คุณสามารถดูแลไตได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
ทำความรู้จักกับ eGFR และการทำงานของไต
ไตมีหน้าที่หลักในการกรองของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากเลือดผ่านหน่วยไตเล็กๆ ที่เรียกว่า โกลเมอรูลัส (Glomerulus) อัตราการกรองของไต หรือ eGFR คือค่าประมาณที่บ่งบอกถึงปริมาณเลือดที่ไตสามารถกรองได้ในหนึ่งนาที ยิ่งค่า eGFR สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งแสดงว่าไตทำงานได้ดีเท่านั้น แพทย์จะใช้ค่านี้เป็นเกณฑ์ในการประเมินระยะของโรคไตเรื้อรัง
- eGFR ≥ 90: ไตทำงานปกติ (ระยะที่ 1)
- eGFR 60-89: ไตทำงานลดลงเล็กน้อย (ระยะที่ 2)
- eGFR 30-59: ไตทำงานลดลงปานกลาง (ระยะที่ 3)
- eGFR 15-29: ไตทำงานลดลงอย่างมาก (ระยะที่ 4)
- eGFR < 15: ภาวะไตวาย (ระยะที่ 5)
ความสัมพันธ์ระหว่างโปรตีนและอัตราการกรองของไต
โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เมื่อเรากินโปรตีน ร่างกายจะย่อยสลายเป็น กรดอะมิโน และนำไปใช้ประโยชน์ ส่วนที่เหลือจะถูกเปลี่ยนเป็นของเสียในรูปของ ยูเรีย ซึ่งไตมีหน้าที่สำคัญในการกรองยูเรียนี้ออกจากเลือด หากไตยังทำงานได้ดีในคนปกติ (eGFR สูง) ไตก็จะสามารถกรองของเสียเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่มีผลกระทบใดๆ
แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อไตเริ่มเสื่อมสภาพลง:
- เมื่อไตเสื่อม (eGFR ลดลง): ความสามารถในการกรองยูเรียและของเสียอื่นๆ ก็จะลดลงตามไปด้วย หากยังคงกินโปรตีนในปริมาณเท่าเดิม ร่างกายจะยิ่งสร้างของเสียเพิ่มขึ้น ทำให้ไตต้องทำงานหนักเกินความจำเป็นเพื่อกำจัดของเสียเหล่านั้น
- โปรตีนเป็นภาระของไต: การบริโภคโปรตีนที่มากเกินไปในขณะที่ไตมีประสิทธิภาพในการกรองลดลง จะทำให้ของเสียสะสมในเลือดสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น อ่อนเพลีย คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และอาจเป็นตัวเร่งให้ไตเสื่อมเร็วขึ้นไปอีก
- การจำกัดโปรตีนเพื่อรักษา eGFR: การควบคุมปริมาณโปรตีนให้เหมาะสมกับระยะของโรคไตจึงเป็นหัวใจสำคัญในการชะลอการเสื่อมของไต การลดปริมาณของเสียที่ต้องกรองจะช่วยให้ไตทำงานได้เบาลงและรักษาอัตราการกรองที่เหลืออยู่ให้คงที่นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
แนวทางการกินโปรตีนตามค่า eGFR
การกินโปรตีนที่เหมาะสมควรปรับเปลี่ยนไปตามระยะของโรคไต ซึ่งสามารถดูได้จากค่า eGFR ที่วัดได้
- eGFR ระยะที่ 1-2 (ไตเริ่มมีปัญหาเล็กน้อย): ยังไม่จำเป็นต้องจำกัดโปรตีนอย่างเคร่งครัด แต่ควรเลือกกินโปรตีนคุณภาพสูงในปริมาณที่เหมาะสม คือประมาณ 0.8-1.0 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน เพื่อไม่ให้ไตต้องทำงานหนักเกินไป
- eGFR ระยะที่ 3 (ไตทำงานลดลงปานกลาง): เป็นระยะที่ต้องเริ่มจำกัดโปรตีนอย่างจริงจัง ควรลดปริมาณโปรตีนเหลือประมาณ 0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน และเน้นโปรตีนคุณภาพสูง
- eGFR ระยะที่ 4-5 (ไตทำงานลดลงมาก/ไตวาย): เป็นระยะที่ต้องจำกัดโปรตีนอย่างเคร่งครัดที่สุด เพื่อลดการสะสมของเสียในเลือด ปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมคือประมาณ 0.6-0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์
บทสรุป
ค่า eGFR และอัตราการกรองของไตมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการบริโภคโปรตีน ยิ่งค่า eGFR ลดลงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจำเป็นต้องควบคุมปริมาณโปรตีนให้จำกัดมากขึ้นเท่านั้น การทำความเข้าใจความสัมพันธ์นี้จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการกินอาหารได้อย่างถูกวิธี และเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยชะลอการดำเนินของโรคไตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#eGFR #อัตราการกรองของไต #โปรตีนกับไต #โรคไต #สุขภาพไต